สรุปผลการวิจัย "นิตินวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม"

21/3/2568 15:14:47น. 84
โครงการวิจัย "นิตินวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ จากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม" ในพื้นที่หมู่บ้านเกษตรสุข หมู่ 15 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาคณะผู้ดำเนินโครงการ ได้รับรางวัลโครงการ “1 คณะ 1 ชุมชนนวัตกรรม” ประจำปี 2567 ระดับเหรียญทอง

สรุปผลการวิจัย "นิตินวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม"

นิตินวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม

1. ที่มาและความสำคัญของปัญหา

กฎหมายที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเผาในภาคเกษตรกรรม ได้แก่ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 กฎหมายทั้งสองฉบับใช้มาตรการสั่งการและควบคุม (command and control regulation) เพื่อบังคับโดยตรงต่อประชาชนให้กระทำหรือละเว้นการกระทำ โดยสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมาย (legal norm) เพื่อควบคุมพฤติกรรมว่า สิ่งใดทำได้ สิ่งใดผิดกฎหมายและโทษทางอาญาจะนำมาใช้หากมีการฝ่าฝืน ซึ่งถือว่าเป็นการควบคุมโดยตรง (direct regulation)

อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการสั่งการและควบคุมไม่เหมาะกับการควบคุมการเผาในที่โล่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาในภาคเกษตรกรรม เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่ทราบถึงการเผา แม้จะมีควันปกคลุมในเขตท้องที่ แต่ไม่ทราบว่าควันดังกล่าวมีที่มาจากแหล่งใด ทำให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกคำสั่งระงับการเผาได้ หรือในกรณีการเผาเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกล กว่าที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะมีคำสั่งให้หยุดเผา การเผาก็เสร็จสิ้นแล้ว และไม่รู้ตัวผู้เผาทำให้ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ อีกทั้ง การใช้มาตรการห้ามเผาเด็ดขาด สร้างการไม่ยอมรับจากเกษตรกรที่มองว่า การเผาเป็นส่วนหนึ่งของการทำการเกษตร และ เป็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมของเกษตรกร ซึ่งได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน อีกทั้ง เมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาห้ามเผาจะมีเชื้อเพลิงจำนวนมากที่รอการเผา และเกิดการเผาพร้อมกันก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

เหตุผลที่เกษตรกรเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเนื่องจากฟางหรือตอซังข้าวทำให้การไถ่เพื่อเตรียมดินในการทำนาครั้งต่อไปทำได้ยาก เกษตรกรจึงเลือกการเผาซึ่งเป็นวิธีการกำจัดที่ง่ายที่สุดและมีต้นทุนต่ำสุด ในขณะที่การปล่อยให้ฟางย่อยสลายเองตามธรรมชาติต้องอาศัยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและใช้ระยะเวลานาน รวมถึงต้องใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายเข้ามาช่วยซึ่งทำให้เกษตรกรมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง การอัดฟางก้อนเพื่อจำหน่ายก็ไม่สร้างแจงจูงใจมากพอ โดยต้นทุนฟาง 1 ก้อนจะอยู่ที่ 15 บาท ซึ่ง 13 บาทเป็นค่าจ้างรถไถ่ และอีก 2 บาทเป็นค่าจ้างเก็บฟางหรือการทอย ในขณะที่ราคารับซื้อตามท้องตลาดอยู่ที่ 17 บาทต่อก้อน เท่ากับว่า เกษตรกรจะได้กำไรขั้นต้น (margin) 2 บาท หรือร้อยละ 13.3 โดยที่ยังไม่ได้หักค่าแรงงานของตนเอง

จากการสำรวจพบว่า เกษตรกรยินดีที่จะอัดฟางก้อน (willingness to accept) หากได้กำไรขั้นต้นที่ 5 บาทขึ้นไป หรือร้อยละ 33.3 โครงการนี้ได้ทดลองนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ผสมผสานกับเครื่องมือทางกฎหมาย โดยการทำข้อตกลงกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และให้เงินอุดหนุนก้อนละ 3 บาทเพื่อสร้างแรงจูงใจให้อัดฟางก้อน โดยจำกัดโควตารายละไม่เกิน 500 ก้อน

2. วัตถุประสงค์

1. แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม
2. สร้างรายได้ให้เกษตรกรจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร



3. ผลการวิจัย
ผลจากการดำเนินโครงการ มีการจัดทำข้อตกลงกับเกษตรกร 19 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 259 ไร่ มีการอัดฟาง 9,500 ก้อน (ฟาง 1 ก้อนมีน้ำหนักประมาณ 13 กิโลกรัม) ช่วยลดเชื้อเพลงการเผาได้ 123 ตัน เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายฟางอัดก้อนร้อยละ 10.6 โดยคำนวณจากรายได้จากการทำนาข้าวเฉลี่ย ไร่ละ 7,500 บาท ขายฟางอัดก้อน 20 บาท (รวมเงินอุดหนุน) โดย 1 ไร่จะได้ฟางอัดก้อนประมาณ 40 ก้อน

นอกจากนี้ ยังเกิดการจ้างงานภาคเกษตรมีเงินหมุนเวียนในชุมชน 3 รอบเป็นเงิน 332,500 บาท ประกอบด้วย การจ้างรถอัดฟางก้อนละ 13 บาท การจ้างคนเก็บฟางก้อนละ 2 บาท และเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการนำฟางไปขายก้อนละ 20 บาท (รวมเงินอุดหนุน) จากฟางทั้งหมด 9,500 ก้อน

บทความโดย ผศ. วีระยุทธ หอมชื่น (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา)

โครงการวิจัย "นิตินวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ จากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม" ในพื้นที่หมู่บ้านเกษตรสุข หมู่ 15 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยาคณะผู้ดำเนินโครงการ ได้รับรางวัลโครงการ “1 คณะ 1 ชุมชนนวัตกรรม” ประจำปี 2567 ระดับเหรียญทอง

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
School of Law
University of Phayao
Address:
อาคารเรียนรวมหลังเก่า (PKY) 19 หมู่ 2 ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา 56000
โทรศัพท์ 0832566446,054-466-666
ต่อ 1614 งานธุรการ,งานแผนงาน,งานพัสดุ
ต่อ 1618 งานการเงินและบัญชี
ต่อ 1137 งานเทคโนโลยีสารสนเทศ
ต่อ 1851 งานกิจการนิสิต,งานบุคลากร
ต่อ 1852 งานวิชาการ
ต่อ 1619 คลินิกกฎหมาย,งานวิจัยและบริการวิชาการ
เว็บไซต์: https://law.up.ac.th/
YouTube: https://www.youtube.com/@LawUP
Tiktok : https://www.tiktok.com/@lawup2023
อีเมล์ law.up@up.ac.th



Print Friendly and PDF

ติดตามข่าวสาร มพ.


ติดตามข่าวสารผ่าน tiktok มพ.

@uptiktok2023

แอปพลิเคชั่น Smart UP

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้


ข่าวที่มีผู้อ่านสูงสุด ย้อนหลัง 7 วัน