SEEN collaborate Thai Health and CCAS presenting the summary report of project’s implementation to the inspection committee.

The School of Energy and Environment (SEEN), University of Phayao (UP), in collaboration with the Thai Health Promotion Foundation (Thai Health) and the Center for Clean Air Solutions (CCAS), organized an event to present the summary report of the project’s implementation to the inspection committee. The event took place in the SEEN’s meeting room, UP., on May 7, 2024.

In the morning, Dr. Wimonrat Sitisara, the head of the project "Strengthening Model Communities for Natural Resource and Environmental Management to Reduce Forest Fire Haze and Promote Well-being in the University of Phayao Network Area," presented a report on the fieldwork conducted to educate communities about the hazardous climate change situation, the impacts of forest fire haze, health issues and care, as well as fostering a conservation mindset and forming a network to stop open burning and monitor forest fires. This was done for 10 communities within the cooperation network in Phayao Province, with a total of 150 network members participating from Dok Khamtai District, Chiang Kham District, and Mueang District.

In the afternoon, Assoc. Prof. Dr. Saksit Imman, the head of the project "Establishing a Network of Environmentally Friendly Farmers to Prevent Dust Problems from Biomass Burning in Agricultural Areas of Mae Sai District, Chiang Rai Province," presented a report on fieldwork conducted to educate farmers about preventing dust issues, reducing biomass burning, health problems, and health care. A total of 72 farmers participated in the network. Additionally, an innovation was introduced by applying local wisdom to use the pot-rest combined with composting without turning the piles. This method involves using pipes to introduce air into the biomass material piles to accelerate natural composting and decomposition processes, which is faster compared to traditional pile methods. Solar panel-generated electricity is used to supply air.

Mr. Pitsanu Pannaracha, the chairman of the inspection committee, expressed his congratulations to the project team for successfully completing the project. He also recognized the potential of effectively applying local wisdom and anticipated that the results would be expanded to other interested network groups.

คณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม ม.พะเยา ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ ศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ (ศวอ.) จัดกิจกรรมนำเสนอรายงานสรุปผลการดำเนินโครงการบริการวิชาการ ต่อ คณะกรรมการตรวจรับงาน ณ ห้องประชุมคณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม ม.พะเยา เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

ในภาคเช้า ดร.วิมลรัตน์ ศีติสาร หัวหน้าโครงการ “การสร้างความเข้มแข็งชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาหมอกควันไฟป่า สร้างเสริมสุขภาวะ ในพื้นที่เครือข่ายมหาวิทยาลัยพะเยา” เป็นผู้นำเสนอรายงานผลการลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตราย ผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า ปัญหาสุขภาพและการดูแลสุขภาพ รวมถึง การสร้างสำนึกอนุรักษ์และร่วมเป็นเครือข่ายงดการเผาในที่โล่งและเฝ้าระวังไฟป่าให้กับเครือข่ายความร่วมมือภายในจังหวัดพะเยาจำนวน 10 ชุมชน โดยมีสมาชิกเครือข่ายเข้าร่วมทั้งสิ้น 150 ราย จากเขตอำเภอดอกคำใต้ เขตอำเภอเชียงคำ และเขตอำเภอเมือง

และในภาคบ่าย รศ.ดร.ศักดิ์สิทธิ์ อิ่มแมน หัวหน้าโครงการ “การสร้างเครือข่ายเกษตรกรรักษ์สิ่งแวดล้อมป้องกันปัญหาฝุ่นละอองจากการเผาไหม้ชีวมวลจากภาคการเกษตรในพื้นที่แม่สาย จังหวัดเชียงราย” เป็นผู้นำเสนอ รายงานผลการลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ป้องกันปัญหาฝุ่นละออง ลดปัญหาการเผาจากชีวมวล ปัญหาสุขภาพและการดูแลสุขภาพให้กับเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมทั้งสิ้น 72 ราย พร้อมทั้ง สร้างนวัตกรรมด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นประยุกต์ใช้เสวียนร่วมกับการทำปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง โดยใช้ท่อเติมอากาศเข้าไปในกองเศษวัสดุชีวมวลเพื่อช่วยเร่งการหมักและย่อยสลายเศษชีวมวลแบบธรรมชาติที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีตั้งกองแบบเดิม โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ในการเติมอากาศ

คุณพิษณุ ปันนะราชา ประธานกรรมการตรวจรับงาน ได้แสดงความยินดีกับคณะทำงานที่ได้ดำเนินโครงการฯ สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี อีกทั้งได้เล็งเห็นศักยภาพในการนำภูมิปัญญาพื้นบ้านไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคาดว่าจะขยายผลไปยังกลุ่มเครือข่ายอื่นที่มีความให้ความสนใจอีกด้วย