อยากชวนให้ทุกคน ลองจินตนาการภาพตามว่า “ถ้าวันหนึ่งเราได้เห็นเด็กไทยคว้าแชมป์หุ่นยนต์ในระดับโลก จะเป็นอย่างไร” ความฝันนี้อาจไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปแล้ว เมื่อช่วงวันที่ 18 - 19 สิงหาคม 2568มหาวิทยาลัยพะเยาได้เปิดเวทีที่สำคัญอีกหนึ่งเวที ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนของวงการหุ่นยนต์ไทย
ที่ห้องประชุมเมืองพะเยา อาคารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยพะเยา บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความคึกคักไปด้วยเสียงจากหุ่นยนต์และเสียงเชียร์จากพ่อแม่ผู้ปกครอง นี่คือการแข่งขันหุ่นยนต์ Asia Pacific Robot Alliance (APRA) ชิงแชมป์ภาคเหนือ ประจำปี 2025 ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา และสมาร์ทชายด์โรบอทติกส์
เมื่อเวทีที่ไม่ใช่แค่การแข่งขัน สิ่งที่น่าสนใจคือ “สมาร์ทชายด์โรบอทติกส์” นั้นไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการนี้ แต่พวกเขาเป็นตัวแทนเพียงผู้เดียวในประเทศไทยที่ได้รับสิทธิ์จัดการแข่งขันAPRA จากสมาคม APRA ประเทศฮ่องกง และด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปีในการพัฒนาเยาวชน พวกเขาเข้าใจดีว่าการแข่งขันหุ่นยนต์ที่จัดขึ้นทั่วประเทศไม่ใช่แค่การต่อชิ้นส่วนให้เครื่องจักรสามารถเคลื่อนไหวได้
คุณกิตตินันท์ พึ่งเพาะปลูก CEO และผู้บริหาร สมาร์ทชายด์โรบอทติกส์ได้พูดให้เราฟังว่า “เราต้องการให้เด็ก ๆ เรียนรู้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การออกแบบ การแก้ไขปัญหา และสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานร่วมกันผ่าน STEM Education”
นี่คือปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์บังคับมือหรือหุ่นยนต์อัตโนมัติ
ความคึกคักจากผู้เข้าแข่งขันกว่า 70 ชีวิต การแข่งขันครั้งนี้ได้ดึงดูดน้อง ๆ นักเรียนมากถึง 70 ชีวิต ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็กเล็กอายุ 6 ปี ในรุ่น Primary (6-10 ปี) ไปจนถึงวัยรุ่นอายุ 18 ปี ในรุ่น Junior (13-18 ปี) โดยมีรุ่น Elementary (9-13 ปี) เป็นตัวกลาง สิ่งที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้น่าตื่นเต้นคือ 5 รายการที่ท้าทายความสามารถ เช่น EV3 Auto Sumo ที่เน้นการโปรแกรมหุ่นยนต์ให้เคลื่นไหวแบบอัตโนมัติ หรือ Relay Mission ที่ต้องใช้ทักษะการทำงานประสานกันเป็นทีม และไฮไลท์สุดท้ายคือ SPIKE Remote Soccer ที่กลุ่มเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันต้องควบคุมหุ่นยนต์เล่นฟุตบอลแข่งกับอีกทีม
.jpg)
จึงทำให้เห็นว่าเวทีนี้เป็น “มากกว่าการแข่งขัน คือการเปิดประตูของเด็ก ๆ เหล่านี้สู่อนาคตที่ตนเองฝันไว้” สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดไม่ใช่ตัวการแข่งขัน แต่เป็นเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังการจัดการแข่งขันที่ไม่ได้มุ่งหวังแค่จะหาเพียงแค่ผู้ชนะเท่านั้น แต่ต้องการปลุกพลังและแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มเด็ก ๆ ที่มีความรักและความชอบในหุ่นยนต์ ที่เป็นเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ที่จะแสดงให้เห็นว่า “พวกเขามีความสามารถในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ และที่สำคัญที่สุดคือการเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ก้าวไปสู่เวทีที่ยิ่งใหญ่กว่าเวทีนี้” ในวันแข่งขัน ทำให้เราได้มองเห็นภาพบรรยากาศที่แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เรื่องภายในโรงเรียนเท่านั้น แต่ต้องอาศัยการร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับการแข่งขันที่มหาวิทยาลัยพะเยาในครั้งนี้อาจจะดูเป็นเพียงการแข่งขันระดับภาค แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือ “จุดเริ่มต้น” ของเส้นทางที่จะนำเด็กไทยไปสู่เวทีระดับโลก เพราะผู้ชนะจากที่นี่จะได้โอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ
.jpg)
เมื่อเราลองมองย้อนกลับไป เราจะเห็นว่า “การลงทุน” ในเยาวชนแบบนี้คือสิ่งที่ประเทศเราต้องการ ไม่ใช่แค่เพื่อให้เด็ก ๆ เก่งเรื่องหุ่นยนต์เท่านั้น แต่เป็นการปลูกฝังทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการทำงานเป็นทีม ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญแห่งโลกอนาคตที่สังคมต้องการ ซึ่งบทสรุปของเรื่องราวนี้คือ วันหนึ่งเมื่อเราเห็นเด็กไทยไปยืนบนเวทีคว้าแชมป์การแข่งขันหุ่นยนต์ในระดับโลก เราจะรู้ว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากเวทีเล็ก ๆ เสมอ เช่นที่มหาวิทยาลัยพะเยา ที่ได้ร่วมกระตุ้นและได้ร่วมสร้างความสำเร็จ จากความฝันเล็ก ๆ ให้ได้รับการหว่านเมล็ดพันธ์ไว้ในใจเด็ก ๆ เหล่านั้นอีกด้วย
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข้อมูล: นางสาวมยุเรศ แสงสว่าง นักประชาสัมพันธ์คณะ ICT มหาวิทยาลัยพะเยา
เขียน/เรียบเรียง: บรรเจิด หงษ์จักร นักประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารองค์กร กองกลาง มหาวิทยาลัยพะเยา