คลินิกกฎหมายคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ร่วมกับสำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) ร่วมจัดโครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี 2566 “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัย พ.ร.บ. ขับขี่ปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย 100 %” จัดคาราวานรณรงค์และสร้างความรู้ความเข้าใจตามกรมธรรม์ประกันภัยรถ พ.ร.บ. ให้ชาวพะเยา พร้อมขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยพะเยา” เป็นต้นแบบกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้เจ้าของรถ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการจัดทำประกันภัยรถ
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นางกาญจนา ศรีคราม ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) นำทีม คปภ.ในสังกัด ภาค. 1 “ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดพะเยา , จังหวัดลำปาง และจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี 2566 “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัย พ.ร.บ. ขับขี่ปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย 100 %” ณ มหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ให้นักศึกษาประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 หรือ ประกันภัย พ.ร.บ. รวมถึงบทบาทหน้าที่และภารกิจของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย โดยมี (นายเทวา ปัญญาบุญ) รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ให้เกียรติมาเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และบริษัทประกันภัยในพื้นที่จังหวัดพะเยา ประกอบด้วย บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันวินาศภัย
ตัวแทน นายหน้าประกันภัย ภาคีเครือข่าย นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานกว่า 250 คน นางกาญจนา ศรีคราม ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) เปิดเผยว่า
จากข้อมูลที่ได้รับรายงานทำให้ทราบว่า จังหวัดพะเยา มีจำนวนรถที่จดทะเบียนสะสมกว่า 274,691 คัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566) ในขณะที่รถที่ทำประกันภัย พ.ร.บ. มีเพียง 213,181 คัน หรือประมาณร้อยละ 77.61 โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีการจดทะเบียนสะสมกว่า 169,532 คัน แต่มีรถที่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. มีเพียง 115,766 คัน หรือประมาณร้อยละ 68.29 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายังมีรถที่อยู่นอกระบบการประกันภัย พ.ร.บ. และมีเจ้าของรถอีกจำนวนมากที่ยังไม่เข้าใจและไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีประกันภัย พ.ร.บ. หรือการประกันภัยรถภาคบังคับ ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (ฉบับที่ 4 ) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เจ้าของรถได้รับทราบถึงประโยชน์การจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. สำนักงาน คปภ. จังหวัดพะเยา จึงได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. ผ่านโครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี 2566 “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัย พ.ร.บ. ขับขี่ปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย 100 %” โดยมีกิจกรรมการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในหัวข้อเรื่อง “อบอุ่นมั่นใจด้วยประกันภัย พ.ร.บ.” พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถจักรยานยนต์กว่า 150 คัน รวมถึงจัดกิจกรรมการออกบูธประชาสัมพันธ์ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย และหน่วยงานเครือข่าย ประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา , สำนักงานขนส่งจังหวัดพะเยา , สำนักงานคลังจังหวัดพะเยา , โรงพยาบาลพะเยาสำนักงานยุติธรรมจังหวัดพะเยา , สมาคมตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินจังหวัดพะเยา ธนาคารในสังกัดกระทรวงการคลัง บริษัทประกันภัย และนายหน้าประกันภัย ในพื้นที่จังหวัดพะเยา พร้อมรับฟังสภาพปัญหา รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนและภาคธุรกิจประกันภัยในพื้นที่ เพื่อศึกษาแนวทางและนำไปปรับปรุงการรณรงค์ส่งเสริมการทำประกันภัยรถตาม พ.ร.บ.ฯ ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ ตลอดจนให้คำแนะนำปรึกษาด้านการประกันภัยกับ “คลินิกกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” และกิจกรรมสันทนาการเล่นเกมแจกของรางวัลต่างๆ อีกมากมาย
นางกาญจนา ศรีคราม ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากสำนักงาน คปภ.จังหวัดพะเยา ได้รายงานการเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนด้านหน้าของมหาวิทยาลัยพะเยา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่ประสบอุบัติเหตุ และเป็นรถที่ไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ. โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ดังนั้น สำนักงาน คปภ.จังหวัดพะเยา จึงได้เลือกมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ โครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี 2566 “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัย พ.ร.บ. ขับขี่ปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย
100 %” เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการรณรงค์ส่งเสริมประชาสัมพันธ์อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การคุ้มครองดูแลผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย กรณีประสบภัยจากรถแล้ว แต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์จากประกันภัย พ.ร.บ. ได้ ผ่านการจ่ายเงินค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดภาระทางการเงินแก่ผู้ประสบภัยจากรถแล้ว ยังก่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม ทั้งในเชิงลดผลกระทบด้านเศรษฐกิจและลดปัญหาสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผู้ประสบภัยจากรถไม่ได้รับการเยียวยาได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว โดยวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น แบ่งออกเป็น กรณีบาดเจ็บ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท หรือกรณีเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยะหรือทุพพลภาพถาวรตามกำหนดไว้ จะได้รับเงินชดเชย จำนวน 35,000 บาท และหากกรณีได้รับบาดเจ็บและต่อมาสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยจากรถแล้ว อีกหน้าที่หนึ่งของกองทุนที่ต้องดำเนินการ คือ การไล่เบี้ยเรียกคืนค่าเสียหายเบื้องต้นพร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 20 จากเจ้าของรถที่ฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. และไม่จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัย นอกจากนี้เจ้าของที่ฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ที่ใช้รถคันที่ไม่ทำประกันภัย
พ.ร.บ. จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นเดียวกันทั้งนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 มีเจตนารมณ์เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างทันท่วงที และเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนผู้ใช้รถได้อย่างเหมาะสม ซึ่งประกันภัย พ.ร.บ. มีความคุ้มครองสูงสุด กรณี จากรถ 80,000 บาท กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาท แล้วแต่กรณี กรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร 500,000 บาท และกรณี ผู้ที่ประสบภัยจากรถแล้วต้องพักรักษาตัวในสถานพยาบาลจะได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท (ตามจริงไม่เกิน 20 วัน)
ด้าน (นายเทวา ปัญญาบุญ) รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวด้วยว่าขอขอบคุณสำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) และสำนักงาน คปภ.จังหวัดพะเยา ที่คัดเลือกมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. ประจำปี 2566 “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับประกันภัย พ.ร.บ. ขับขี่ปลอดภัยด้วยการสวมหมวกนิรภัย 100 %” ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักให้นักศึกษา และพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ได้รับทราบถึงสิทธิ หน้าที่ และความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 รวมถึงบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เพื่อนำไปใช้บริหารความเสี่ยงในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และเป็นธรรม
“สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ของไทยเรา ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง จึงขอฝากมายังประชาชนควรใช้ความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันภัยอื่น ๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลประกันภัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” นางกาญจนา ศรีคราม ผู้อำนวยการภาคอาวุโส สำนักงาน คปภ.ภาค 1 (เชียงใหม่) กล่าวในตอนท้าย