“แต่ถ้ามันจะเกิดโดยที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จงอยู่กับมันให้ได้ และให้มีความสุขที่สุด เท่าที่เราจะทําได้ในตอนนี้ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก”
จากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโรค Covid-19 อย่างรุนแรงและลุกลามไปทั่วโลก สร้างความตื่นตระหนก และความ เสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ เกิดความเสียหายต่อ ระบบเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงอัตราการเสียชีวิตของประชากรทั่วโลก การใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความยากลําบาก ทุกเช้าที่ตื่นมาก็วิตกกังวลว่าเรา จะติดเชื้อหรือยัง คนที่เรารัก คนที่ใกล้ตัวเราจะติดเชื้อหรือยัง เราจะตายมั้ย เราจะอยู่รอดไปจนพ้นวิกฤตินี้หรือไม่ อนาคตจะเป็นยังไงต่อไป มันจะอยู่อีกนานมั้ย สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความหวาดระแวง ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ยังวิกฤติช่วงนี้ จึงอยาก ให้ทุกท่านเฝ้าถนอมร่างกายและจิตใจตนเองอยู่เสมอ เช่น
1. ถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราเครียดกับเรื่องนี้ในระดับใด
หากไม่รู้ ก็หาแบบประเมินความเครียดมาลองทําได้ หากท่าน เครียดอยู่ในระดับสูงมากเกินไป โดยเฉพาะคนที่ต้องกักตนเองภายในบ้าน คนที่ต้อง Work From Horne การต้องอยู่ในที่แคบๆ เดิมๆ ซ้ําๆ เป็น ระยะเวลานาน จะส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมากทั้งภาวะเครียด และอาการซึมเศร้า ควรหาทางผ่อนคลายความเครียดบ้าง สะสายตา จากโทรศัพท์ หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ ออกไปสูดอากาศที่ระเบียง หรือรอบๆ บ้าน บ้างก็ได้ อย่าให้เครียดมากเกินไปนะครับ และก็อย่า ให้ถึงกับไม่เครียดเลย ชีวิตลัลล้า ไม่ตระหนัก ไม่กลัวอะไรเลย ใช้ชีวิต อย่างสุ่มเสี่ยงต่อการติดโรค แบบนั้นก็เสี่ยงเกินไปครับ ความเครียดใน ระดับพอดี ทําให้เราตระหนักและรู้จักป้องกันตนเอง
2. เสพข้อมูลข่าวสารในโลกโซเชียลให้พอดี
กลั่นกรองข้อมูลที่ได้รับอย่างมีสติ อย่าเพิ่งหลงเชื่อหรือตื่นตระหนก กับข้อมูลที่ได้รับ หากยังไม่ได้รับการยืนยัน เนื่องจากข้อมูส ที่สียในโซเชียล มากกว่าครึ่งเป็นข้อมูลปลอม ไม่มีความน่าเชื่อถือ อย่ารับเอาเข้ามาบั่นทอนจิตใจหมตทุกเรื่อง ย้ําว่า อย่าเชื่อข้อมูลทุกเรื่องที่มีคนโพสต์ ใน โซเชียล..จงมีสติในการรับข่าวสาร
3. ตระหนัก อย่าตระหนก
ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติ ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนํา
4. ปรับตัวให้อยู่กับสถานการณ์นี้ให้ได้
ตราบใดที่เราต้องหายโจ เอาอากาศเข้าไปในปอดก็ไม่มีทาง ที่จะเลี่ยงไม่ให้มีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ร้อยเปอร์เซนต์ ทําอย่างไร ให้เลี่ยง ให้ได้มากที่สุด ดีที่สุด ณ สถานการณ์ ขณะนั้น
สิ่งที่น่าเป็นห่วง และจะตามมาหากสถานการณ์คลี่คลาย คือภาวะซึมเศร้า จากที่ทุกคนตื่นมาจากฝันร้าย แล้วพบว่าตนเองตื่น มาพบกับซากปรักหักพังของครอบครัว เศรษฐกิจและสังคม หน้าที่การงาน ที่พังทลาย ธุรกิจล้มละลายจากการระบาดของโรค ผู้คนตกงาน ไม่มีงานทํา ไม่มีรายได้ ญาติพี่น้องหรือบุคคลที่ตนรักต้องล้มหายตายจาก สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ปัญหาซึมเศร้าจะตามมา ดังนั้นโปรดรักษาจิตใจของตนเองไว้ให้เข้มแข็ง ความเลวร้ายของเหตุการณ์เป็นสิ่งที่ผู้คนรับรู้ร่วมกัน ไม่มีใครปฏิเสธได้ แต่ในความเลวร้ายนี้ อยากให้พวกเรานึกถึงสิ่งดีๆที่มันแฝงมาบ้าง เช่น เมื่อต้องถูกกักบริเวณ หลายคนเพิ่งรู้ว่าตัวเองทําอาหารเก่ง ได้มีโอกาส ทําอาหารให้คนที่ตัวเองรัก คนที่ถูกออกจากงาน ได้มีโอกาสกลับมาอยู่ ร่วมกับคนในครอบครัว สิ่งแวดล้อมธรรมชาติหลายๆ แห่ง กลับฟื้นตัว อีกครั้งหลังจากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเหยียบย่ํา ไม่มีใครขอบ สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครอยากให้มันเกิด แต่ถ้ามันจะเกิดโดยที่เรา หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จงอยู่กับมันให้ได้ และให้มีความสุขที่สุด เท่าที่เราจะทําได้ในตอนนี้ เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
โดย ดร.วุฒิชัย ไชยรินคำ รองอธิการบดีฝ่ายคุณภาพนิสิต