"มิตร" ที่ไม่ใช่เพื่อนแต่เป็น "มิจ ฉา ชีพ" เตือนภัย 3 อันดับภัยออนไลน์ ที่นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยพะเยา โดนหลอกมากที่สุด
.JPEG)
เหมือนที่หลาย ๆ ท่านทราบ ตามข่าวโทรทัศน์หรือข่าวที่ปรากฎตามสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับภัยที่มากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันคือเทคโนโลยีเหล่านั้น มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เช่น ชื่อ - สกุล เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต แม้กระทั้งรหัสผ่านที่เราเก็บรักษาไว้ในเครื่อง นั้นจึงเป็นที่มาของ “มิตร” ที่ไม่ใช่เพื่อนของเรา แต่เป็น “มิจฉาชีพ” ที่จ้องเอาข้อมูลต่าง ๆเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ ยิ่งในช่วงหลัง เราจะได้ยินคำว่า “ภัยออนไลน์” จนชินหู แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนัก จนกว่าจะมาเจอกับตัวเอง ภัยออนไลน์ ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ โดยอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของเราหรือข้อมูลสำคัญขององค์กรที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การโจมตีทางไซเบอร์, การประพฤติมิชอบในโลกออนไลน์, การแอบดักจัดเก็บข้อมูล (phishing) แม้กระทั้งการหลอกให้เราทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์เพื่อดูดเงินจากบัญชีของเราไป
จากข้อมูลทางสถิติของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มีคดีที่ถูกรายงานเข้ามากจำนวน 5 คดี คือ
1) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล 2) หลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam) 3) หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 4) หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 5) หลอกลวงติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ จากทั้ง 5 คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายรวมกันสูงถึง 7,106,580 บาท
ผนวกกับข้อมูลของสถานีตำรวจภูกธรแม่กา ที่ได้รายงานการรับแจ้งความในคดีลักษณะเดียวกัน จากนิสิตและบุคลาการ มหาวิทยาลัยพะเยา โดยต่อวันมีจำนวนการแจ้งความ 5 - 6 คดี และมีความเสียหายเกิดขึ้นต่อทรัพสินย์จำนวนมาก โดยมีการจัดกลุ่มภัยทางสัมคมออนไลน์ที่นิสิตและบุคลากรมหาวิทยาลัยพะเยาพบเจอเป็น 3 อันดับได้แก่
🔹อันดับที่ 1 การอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ DSI เจ้าหน้าที่สรรพกร เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยจะมีการแจ้งผู้เสียหายว่า บัญชีธนาคารของเรา มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด หรือ มีการฟอกเงินเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย
หากเราเจอลักษณะนี้ ให้เราสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นแก๊ง Call Center แน่นอน การรับมือกับแก๊ง Call Center หรือการโทรศัพท์ที่เข้ามาโดยเจตนาร้ายหรือหลอกลวง เราอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินให้กับผู้ที่โทรเข้ามาโดยที่เราไม่รู้จัก แม้แต่ถามหรือยืนยันข้อมูลส่วนตัวก็ต้องระมัดระวัง เช่น หมายเลขบัตรเครดิต, รหัส OTP (One-Time Password) หรือรหัสผ่าน อีกหนึ่งตัวช่วยคือการติดตั้ง App Whoscall เพื่อใช้เป็นปราการด่านแรกในการคัดกรอกเบอร์โทรแปลก ๆ เหล่านั้น
🔹อันดับที่ 2 ถูกหลอกซื้อของจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยจะได้ราคาถูกกว่าท้องตลาด
โดยปกติแล้วสินค้าถูกและดี ไม่มีอยู่จริง ยกเว้นช่วงโปรโมชั่นที่เบรนสินค้าต่าง ๆ จัดขึ้น อันดับแรกให้เราสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน เพื่อเป็นการป้องกันตนเองไว้ก่อน จากนั้นให้เราตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีหน้าร้านอยู่จริง ร้านค้ามีความหน้าเชื่อถือหรือไม่ ดูรีวิวสินค้าจากผู้ซื้อจริง แต่บางทีอาจจะเป็นหน้าม้าที่มารีวิวว่าสินค้าดีมีคุณภาพ
🔹อันดับที่ 3 ถูกหลอกให้ทำงานหรือลงทุนออนไลน์
บางครั้งรูปแบบของการหลอกลวงก็มาในรูปแบบของบริษัท เพื่อให้เราเกิดความเชื่อมั่น และจะถูกหลอกง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะมีรายได้เข้ามาเป็นตัวล่อ เช่น ถูกชวนให้มาทำงานเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อรีวิวสินค้า และหากขายได้ก็ได้รับส่วนแบ่งไปเลยโดยที่เราไม่ต้องสต๊อกสินค้า และไม่ต้องไปตั้งหน้าร้านเอง แค่เราโอนเงินลงทุนไม่กี่บาท หรือบางครั้งมีให้เราสมัครงานเสริมโดยการส่งลิงก์มาให้สมัคร แต่แท้จริงแล้วเป็นลิงก์ที่แผงมัลแวร์ เพื่อดูดข้อมูลของเราไป
หากเราส่งสัยว่าจะถูกหลอกหรือไม่ ให้เราตั้งคำถามไว้ในใจก่อน และอย่าเชื่อ อย่ารีบ อย่าโอน อย่ากลัว ที่สำคัญคือ มีสติ ตรวจสอบข้อมูลแหล่งที่มา ความน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นการป้องกันภัยจากโลกออนไลน์
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สายด่วน 1441 หรือ www.thaipoliceonline.com