![ชมฟรี มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) เน้นส่งเสริมเยาวชนเรียนรู้นกยูงไทยแห่งล้านนาตะวันออก ชมฟรี มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) เน้นส่งเสริมเยาวชนเรียนรู้นกยูงไทยแห่งล้านนาตะวันออก](images_news/Thumb/498256_637359556989516259.jpg)
ชมฟรี มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) เน้นส่งเสริมเยาวชนเรียนรู้นกยูงไทยแห่งล้านนาตะวันออก
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) มหาวิทยาลัยพะเยา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งเรียนรู้พื้นฐานทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งยังเป็นสื่อกลางในการสื่อสารให้ชุมชนภายนอกมหาวิทยาลัยพะเยาได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ และคุณค่าของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ จัดตั้งโดยคณะวิทยาศาสตร์ที่ต้องการมุ่งเน้นการบูรณาการ องค์ความรู้ของศาสตร์ต่าง ๆ ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และปณิธานของมหาวิทยาลัย “ปัญญาเพื่อความเข้มแข็งของชุมชน”
![](/up/PRUP_630902A-92(1).jpg)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ กล่าวว่า การจัดนิทรรศการนกยูงไทยแห่งล้านนาตะวันออก ภายในพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติทางชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ในครั้งนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อนิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่จะได้รับความรู้เกี่ยวกับนกยูงไทย ความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์และพืช รวมทั้งเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นต้นแบบในการผลักดันและอนุรักษ์นกยูงไทยสู่ระดับโลก โดยการขับเคลื่อนภารกิจหลัก 4 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 1 การอนุรักษ์นกยูงและอนุรักษ์ป่า ด้านที่ 2 เสริมสร้างเครือข่ายรักษ์นกยูงไทยทั้งในภูมิภาคและนานาชาติ ด้านที่ 3 บูรณาการการเรียนการสอนกับการอนุรักษ์นกยูง โดยจัดให้มีการผนวกเรื่องชีวิตนกยูงและการอนุรักษ์นกยูงกับการเรียนการสอน ด้านที่ 4 ส่งเสริมการวิจัย การบริการวิชาการ และทำนุบำรุง ศิลปและวัฒนธรรม เพื่ออนุรักษ์นกยูง โดยมหาวิทยาลัยจะนำนักวิจัยทำงานร่วมกับชุมชนในการศึกษาวิจัย สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับนกยูงในจังหวัดพะเยา และการต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ให้มหาวิทยาลัยพะเยา และจังหวัดพะเยา เป็นเมืองท่องเที่ยวนกยูงไทยในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะยกระดับการพัฒนาสู่ระดับสากล ด้วยการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ SDG ข้อ 15 การใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศทางบกด้วย
![](/up/PRUP_630911-55(1).jpg)
ทางด้าน ประธานหลักสูตรสาขาวิชาชีววิทยา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทิพย์วรรณ สรรพสัตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการจัดนิทรรศการครั้งแรกของ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Natural History Museum) มหาวิทยาลัยพะเยา ได้นำเสนอองค์ความรู้ทางชีววิทยาของนกยูงไทย (Pavo muticus) ซึ่งเกิดจากการระดมความรู้ ความเชี่ยวชาญจากคณาจารย์และนักวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี การสนับสนุนจากกองอาคารสถานที่ ศูนย์การเรียนรู้นกยูงไทย มหาวิทยาลัยพะเยา รวมถึงสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยี และโครงการนกยูงไทยของ สวทช. ปี 2563-2564 อีกทั้งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ภายใต้โครงการล้านนาตะวันออก “เมืองรักษ์นกยูงไทยระดับโลก” สู่การท่องเที่ยวเชื่อมโยงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ภายในนิทรรศการประกอบด้วยความรู้ทางชีววิทยา ในหลากหลายแง่มุมของนกยูงไทย ได้แก่ สัณฐานวิทยาภายนอก ภายใน โครงกระดูกของนกยูงไทย และแหล่งพืชอาหารสำคัญ ของนกยูงไทย รวมทั้ง การจัดแสดงด้านความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์และพืช เพื่อให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถเข้าศึกษาได้ด้วยตนเอง อีกทั้งเพื่อปลูกฝังความรู้และความเข้าใจทางชีววิทยาและเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติให้กับยุวชน เยาวชน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ผ่านเรื่องราวของ “นกยูงไทยแห่งล้านนาตะวันออก”
![](/up/PRUP_630911(2).jpg)
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ได้จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวชีววิทยาของนกยูงไทย (Green peafowl : Pavo muticus) และผองเพื่อน ซึ่งหมายถึงนกที่อยู่ในวงศ์เดียวกัน (Phasianidae) เช่น นกยูงอินเดีย ไก่งวง ไก่ป่า ไก่ฟ้า และนกกระทา โดยจัดวางตัวอย่างสตัฟฟ์ของนกยูงและผองเพื่อนให้เข้าชมอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เพื่อให้นกที่คนทั่วไปรู้จัก เช่น นกกระทาและไก่งวงเป็นสื่อเชื่อมโยงถึงนกยูงไทย และขณะเดียวกันความสวยงามและโดดเด่นน่าประทับใจของนกยูงไทยก็จะจุดประกายให้ผู้คนหันมาสนใจนกและไก่ชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในวงศ์เดียวกันไปด้วย เช่น ไก่ป่าและไก่ฟ้า ซึ่งถือเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามมากชนิดหนึ่งในผืนป่าของไทย พร้อมทั้งเจาะลึกรายละเอียดของขนประเภทต่าง ๆ ของนกยูงไทยผ่านกล้องจุลทรรศน์ ตัวอย่างจริงของอวัยวะภายในโครงกระดูกของนกยูงไทย และหัวกะโหลกของนกประเภทต่าง ๆ ที่มีโครงสร้างสอดคล้องกับพฤติกรรม การกินอาหารของนกแต่ละชนิด มีการนำเสนอไข่นกยูงไทยและผองเพื่อน รวมทั้งนวัตกรรมอุปกรณ์ การตรวจสอบเอ็มบริโอและคุณภาพของไข่ (UP Bio Egg Candler) ตลอดจนมีการกะเทาะเปลือกไข่นกยูง เพื่อนำระยะตัวอ่อน (Embryo) ของนกยูงมาให้ศึกษาอย่างชัดเจน
มีการจำลองรอยเท้านกยูงจากแหล่งที่อยู่ในธรรมชาติ ตลอดจนติดตามการดำรงชีวิตของนกยูงผ่านข้อมูลการวิจัยสำรวจแหล่งพืชอาหารสำคัญของนกยูงไทย จนพบว่าพืชที่นกยูงกินมีหลากหลายชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด ลูกเดือย ไผ่ และพืชวงศ์หญ้าอื่น ๆ มะเดื่อ ลูกใต้ใบ เมล็ดพืชวงศ์ถั่ว เมล็ดทานตะวัน ไม้ล้มลุก เช่น อังกาบ บัวบก ผักปลาบ ผลของตะขบป่า ตะขบฝรั่ง ไทร มะขามป้อม ชมพู่ กระทกรก และพืชวงศ์แตง เป็นต้น นกยูงเป็นสัตว์ที่กินง่ายนอกจากกินพืชแล้วยังได้แหล่งโปรตีนและไขมันจากการกินสัตว์ขนาดเล็ก ได้แก่ แมลงชนิดต่าง ๆ ตะขาบ กิ้งกือ ไส้เดือนดิน หอยทาก ทากเปลือย กบ เขียดขนาดเล็ก ฯลฯ
นักวิทยาศาสตร์ประจำพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตว์ ทั้งในรูปแบบ ตัวอย่างอบแห้ง และตัวอย่างดองมาจัดแสดง เพื่อการขยายฐานความรู้ด้านพืชและสัตว์ให้แก่ผู้เข้าชม และนำไปสู่การตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งมีชีวิตที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้ ทางโรงเรียนหรือผู้ที่สนใจ สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ ทุกวันศุกร์ เวลา 9.00-12.00 น. ฟรี!ไม่มีค่าใช้จ่าย ติดต่อสอบถามรายละเอียดล่วงหน้าได้ โดยตรงที่ : คุณภาวิณี ทองคำ (092-257-1636, pawinee.th@up.ac.th) โทรศัพท์ 054-466-666 ต่อ 1774 หรือ 1713