รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศ์บางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา มอบหมายให้ รองศาสตราจารย์ ดร.ผณินทรา ธีรานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดี เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยพะเยา เข้าร่วมบรรยายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีหัวข้อ “คนสร้างเมือง เมืองสร้างคน” เซี่ยงไฮ้เมืองแห่งการเรียนรู้: ขับเคลื่อนทุนมนุษย์สู่อนาคตแห่งนวัตกรรม (Shanghai Learning City: Advancing Human Capital for Innovative Future) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ผ่านระบบออนไลน์
การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้หัวข้อ “คนสร้างเมือง เมืองสร้างคน” เซี่ยงไฮ้เมืองแห่งการเรียนรู้: ขับเคลื่อนทุนมนุษย์สู่อนาคตแห่งนวัตกรรม (Shanghai Learning City: Advancing Human Capital for Innovative Future) ในครั้งนี้ มีผู้แทนจากเมืองแห่งการเรียนรู้ในประเทศไทยและต่างประเทศเข้าร่วม แลกเปลี่ยนแนวทาง กลยุทธ์ และปัจจัยความสำเร็จในการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน ผ่านความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและเมืองโดยได้รับเกียรติจาก Dr. Rika Yorozu ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจากองค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ และสำนักงานประสานงานเอเชียแปซิฟิก กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้โดยเชื่อมโยงการเรียนรู้ตลอดชีวิตกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4) ซึ่งต้องอาศัย 3 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ การเสริมสร้างศักยภาพเมืองแห่งการเรียนรู้ การติดตามประเมินผลและภาวะผู้นำ และการสร้างความร่วมมือพหุภาคี
Dr. Jiacheng Li รองอธิการบดีและศาสตราจารย์ สถาบันการศึกษาตลอดชีวิตเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ (SMILE) มหาวิทยาลัยครูแห่งชาติตะวันออกประเทศจีน ได้นำเสนอประสบการณ์การพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเริ่มต้นจากการแก้ไขปัญหาการว่างงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับทักษะแรงงาน พร้อมขับเคลื่อนการเรียนรู้ในทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงเมือง โดยมุ่งไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เช่น การส่งเสริมการเรียนรู้ด้าน AI สำหรับผู้สูงอายุ และการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีการถอดบทเรียนจากเมืองแห่งการเรียนรู้ในประเทศไทย โดย นายประภัส ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน ได้นำเสนอการพัฒนาพื้นที่และกิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทุนวัฒนธรรม ผ่านกระบวนการเรียนรู้ข้ามวัย ขณะที่ นายณพล ชยานนท์ภักดี นายกเทศมนตรีเมืองตาก ได้นำเสนอแนวคิดการจัดตั้งกลไกเชิงนโยบายและการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนทุกช่วงวัยในพื้นที่
เวทีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกกลุ่มประชากร โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการเรียนรู้ พร้อมเน้นการสร้างนโยบายและกลไกที่สามารถวัดผลลัพธ์ได้จริง ผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อเป็นแนวทางให้เมืองอื่น ๆ นำไปประยุกต์ใช้ต่อไปในอนาคต